เป็นลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนสุดหวงของนายกสมาคมขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย กนกศักดิ์ ปิ่นแสง
และตอนนี้เธอก็ยังดำรงตำแหน่งกรรมการสมาคมขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทยควบด้วยเช่นกัน นอกจากบทบาททางด้านการกีฬาแล้ว เธอยังเป็นสาวสปอร์ตที่มั่นและมีความสามารถในสนามธุรกิจอีกด้วย ซึ่งที่ผ่านมาเธอ มองเห็นโอกาสในการสร้างคอมมิวนิตี้ของกลุ่มคนยุคใหม่ ที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย และเปิดสถานออกกำลังกายในชื่อ TRIBE (ไทร์บ) สถานที่ออกกำลังกายในบรรยากาศสุดชิก ใจกลางเมือง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ใส่ใจสุขภาพและรักการขับเหงื่อ และยังเป็นผู้นำในการนำเข้าโปรแกรมการออกกำลังกายใหม่ๆที่นิยมในต่างประเทศ นำมาให้คนไทยที่รักการออกกำลังกายได้ตามเทรนด์และสนุกไปมัน
นอกจากนี้เธอก็ยังชื่นชอบเครื่องประดับด้วย การเดินทางไปแข่งขันขี่ม้าโปโลทั่วโลก ทำให้เธอได้ค้นพบความหลงใหลอีกด้านหนึ่งของเธอคือ เครื่องประดับ จนถึงขั้นออกแบบและผลิตเอง ในชื่อ อีกทั้งยังเป็นผู้บริหารผลิตภัณฑ์ฟิวเจอร์ สลัด ประเทศไทย
จุดเริ่มต้นของการหลงใหลม้า
ตอนอายุสัก 4 ขวบ และจัดว่าเป็นเด็กที่โตเกินวัย และเป็นลูกคนเดียวคุณแม่เลยชวนให้ไปลองเรียนขี่ม้า
ทำให้เธอเริ่มขี่ม้าตั้งแต่อายุ 4 ขวบ และในเวลาเพียงหนึ่งปี เธอได้เป็นเจ้าของม้าโพนี่ขนสีขาวตัวแรกคือเจ้าสตาร์ไลท์ เหมือนกับเจ้าจินเจอร์ ม้าโพนี่ของเพื่อนรุ่นพี่คนสนิทที่ชอบขี่ม้าเหมือนกันอย่างคุณเอ๋ย-ชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง (บุตรีคนโตของ พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ)
พออายุได้ 13 ปี เธอถูกส่งไปเรียนโรงเรียนประจำที่อังกฤษ ซึ่งมีกีฬาหลายอย่างให้เล่น และเธอก็ทำได้ดีเพราะเป็นเด็กสปอร์ตเกิร์ลเป็นทัุนเดิม แต่กีฬาไหนก็ไม่ทำให้เธอหลงใหลเหมือนการขี่ม้า คุณพ่อจึงตัดสินใจพาลูกสาวไปเลือกหาซื้อม้าถึงเยอรมนี จากม้าสายพันธุ์ดี มีเพดดิกรี และรางวัลการันตีฝีเท้ากว่า 20 ตัว ในที่สุดเธอเลือก ‘เจ้าคาราจอย’ ม้าเพศเมียลูกครึ่งอิตาเลียนเยอรมันขนสีน้ำตาลเข้ม ก็กลายมาเป็นม้าคู่ใจข้างกายเธอ และม้าตัวนี้ก็เปลี่ยนชีวิตเธอนับแต่นั้น
ว่ากันว่าม้าที่คุ้นเคยและรู้ใจช่วยให้การขี่ม้าปลอดภัยขึ้น คุณพลอยอมยิ้มก่อนตอบว่า “ตั้งแต่ขี่ม้ามา เธอตกม้าประมาณ 87 ครั้ง ครั้งที่หนักที่สุดคือกระดูกสันหลังช่วงก้นกบหัก 2 รอบ และมีการเย็บข้อเท้า แต่เธอมองว่ามันเป็นเรื่องปกติของอุบัติเหตุที่คนขี่ม้าทุกคนต้องประสบพบเจอ ไม่ว่าจะหนักหรือเบาก็ตาม ถึงจะเจ็บตัวเพราะตกม้า
ความผูกพันกับม้า ทำให้การหัดถักเปียครั้งแรกเธอก็หัดกับหางม้าของจริงง ไม่เคยเล่นกับตุ๊กตา อีกทั้งยังมองว่าม้าเหมือนเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอ ม้าเข้าใจเธอ สอนบทเรียนด้านการฝึกความอดทนให้เธอ รู้ว่าเธอสามารถสื่อสารกับมันได
รางวัลไหนประทับใจที่สุด
ตอนอายุ 18 ปี แชมป์เซาท์อีสต์ เอเชียน ลีก ถือว่าเธอประทับใจที่สุด
เพราะการแข่งขันครั้งนั้นมีนักกีฬาจากนานาชาติ ทั้งเอเซียและยุโรปเข้าร่วมการแข่งขัน และความที่เธอเป็นเด็กและเธอชนะได้รางวัลในสัปดาห์เดียว สำหรับเธอในวัยนั้น ความรู้สึกคือสุดยอดมากแล้ว
- <liหลังจากนั้นเธอจริงจังกับการฝึกซ้อมและการแข่งขันมากขึ้น ช่วงปิดเทอมเธอก็ไปเรียนขี่ม้าที่เดนมาร์กและเยอรมนี="" อีกทั้งยังตระเวนแข่งในช่วงปิดภาคเรียน="" เริ่มที่มาเลเซีย="" ซึ่งถือเป็นฮับของกีฬาขี่ม้า="" ซึ่งเธอมองว่าหากเธอชนะ="" ก็จะได้ไต่เต้าไปแข่งต่อในยุโรบ="" อเมริกา="" และตะวันออกกลาง="" และเป้าหมายอีกอย่างหนึ่งของเธอในตอนนั้นคือต้องการเป็นนักกีฬาขี่ม้าทีมชาติไทยเพื่อไปแข่งกีฬาซีเกมส์="" 2007="" แค่ทว่าเธอก็ไปไม่ถึงเป้าหมาย="" เนื่องตากเธอเกิดอุบัติเหตุตกม้าคู่ใจคือเจ้าคาราจอย="" ทำให้เจ็บจนแข่งไม่ได้และพลาดการติดทีมชาติครั้งนั้นไป="" เสียใจจนถึงขั้นจะเลิกขี่ม้าแข่งไปเลย="" <="" span="">
- คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา เจ้าสัวแห่งคิงเพาเวอร์ผู้ชื่นชอบการขี่ม้าเป็นชีวิตจิตใจ เป็นผู้ที่ชักชวนให้เธอกลับมาขี่ม้าอีกครั้ง โดยยกม้าที่บ้านให้เธอหมดเลย ทำให้ตอนนั้นเธอรู้สึกว่าเป็นผู้หญิงที่โชคดีมาที่มีม้าถึง 8 ตัว
</liหลังจากนั้นเธอจริงจังกับการฝึกซ้อมและการแข่งขันมากขึ้น>
- หลังจากปฏิเสธที่สุดแล้วเธอก็ลองเล่นโปโล แล้วก็ติดใจกีฬานี้ทันที
- เธอกล่าวว่าการเล่นโปโลต้องใช้ทักษะหลายด้านประกอบกัน ทั้งไหวพริบและความพลิ้วไหวในการขี่ม้า ความคล่องแคล่วในการควบคุมม้า นอกจากนี้ยังต้องมีกลยุทธ์การเล่นที่ต้องอาศัยการเบียดรุกและการป้องกันผู้เล่นคนอื่น นอกเหนือจากแรงพลังในการตีลูกบอลให้เข้าประตู ซึ่งผู้หญิงไม่ได้ด้อยกว่าผู้ชายเลย”
ด้วยเหตุนี้ฝีมือการเล่นโปโลของเธอจึงก้าวหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว ต่อมาเธอได้ร่วมทีมกับนักโปโลหญิงชาวอเมริกันที่เก่งที่สุดในโลกอย่าง ซันนี่ เฮล
- อันดับแฮนดิแคปของซันนี่อยู่ที่ระดับ 5 ในขณะที่นักกีฬาหญิงที่มีอันดับแฮนดิแคปรองๆ ลงมาก็อยู่แค่ที่ 2 หรือ 3 เรียกว่าซันนี่เก่งกว่าอีก 96% ของนักกีฬาโปโลทั้งหญิงและชายทั่วโลกเลยก็ว่าได้ ซึ่งเขาเล่นมา 30 ปีแล้วก็ยังไม่มีผู้หญิงคนไหนแซง การมีซันนี่เป็นเมนเทอร์ทำให้การเล่นโปโลของเธอจึงก้าวหน้าและจริงจังขึ้น เพราะซันนี่ ได้กลายเป็นผู้ฝึกสอนและเทรนด์เธอในเวลาต่อมาอีกด้วย
วันแรกที่ได้เล่นกับซันนี่ พลอยตื่นเต้นมาก เหมือนเล่นเทนนิสคู่กับเซเรนา วิลเลียมส์” หลังจบการแข่งขันคุณพลอยปวารณาตัวขอเป็นศิษย์ แล้วตระเวนแข่งโปโลกับซันนี่ไปทั่วโลก เก็บเกี่ยวประสบการณ์และพัฒนาฝีมือตัวเองได้ดียิ่งขึ้น ที่สุดเธอได้ติดธงชาติที่หน้าอกในฐานะนักกีฬาโปโลหญิงทีมชาติไทยสมใจ ได้ไปแข่งกีฬาซีเกมส์ ปี 2017 ที่มาเลเซีย และคว้าเหรียญเงินกลับมาฝากคนไทยทั้งประเทศได้สำเร็จ นับจากนั้น ไลฟ์สไตล์ชีวิตเธอก็ดูเหมือนจะชีพจรลงเท้าตลอดเวลา เพราะต้องเดินทางไปแข่งโปโลตามประเทศต่างๆ
ผลงานล่าสุด
การแข่งขันกีฬาขี่ม้าโปโล เชื่อว่าหลายคนอาจจะไม่คุ้นชินนัก เนื่องจากการแข่งขันกีฬาประเภทนี้ นักกีฬาต้องขี่่บนหลังม้าเพื่อเข้าแข่งนันกัน มันเหมือนกับกีฬาสำหรับสังคมคนชั้นสูงที่ต้องมีเงิน และมีระดับเท่านั้นจึงจะสามารถเล่นกีฬาประเภทนี้ได้ เนืองจากค่าตัวม้าแต่ละตัวไม่ใช่น้อยๆ ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดู และอุปกรณ์อื่นๆ อีกทั้งผู้ที่สามารถเข้าชมการแข่งขันได้ก็จะต้องแต่งตัวหรูหราสวยงาม ต้องดูสง่า ให้อารมณ์ว่าเป็นการกีฬาของสังคมชั้นสูงเท่านั้นที่จะเข้าถึงได้ ซึ่งถ้ามองกันตามความเป็นจริงก็คงจะเป็นเช่นนั้น เพราะผู้ที่จะเล่นกีฬาประเภทนี้ได้ นอกจากมีใจรักเท่านั้นก็คงไม่พอ ต้องมีฐานะ มีระดับ อย่างมากทีเดียว เพราะเป็นที่รู้กันทั่วโลกว่าเป็นกีฬาสำหรับคนชนชั้นสูง ราชวงศ์ และพระบรมวงศานุวงศ์หลายประเทศก็มักจะเล่นกีฬาประเภทนี้กัน นี่เองจึงเป็นที่กล่าวกันว่า พลอย ปิ่นแสง มีมิตรสหายที่เป็นเจ้าหญิงเจ้าชายจากหลายประเทศทั่วโลกก็ว่าได้ และนี่เองที่หลายคนมองว่านักกีฬาขี่ม้าทีมชาติไทยคนนี้ เป็นสาวสังคมชั้นสูงคนหนึ่ง