หลายๆคนอาจจะเพิ่งรู้จักยูเครนหลังจากโดนกองกำลังรัสเซียถล่มอย่างหนักตลอด ระยะเวลาหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่สำหรับคนในวงการเทคโนโลยีและเกมส์ ต้องจัดให้ประเทศ “ยูเครน” เป็นที่ยอมรับมานานแล้วในฐานะแหล่งกำเนิด “เทคสตาร์ตอัพ” เจ้าของนวัตกรรมระดับโลกมากมาย ก่อนที่จะโดนกองกำลังรัสเซียโจมตี อุตสาหกรรมไอทีของยูเครนเฟื่องฟูเป็นอย่างมากจนเรียกได้ว่าแทบจะถึงขีดสุด เพราะ มีบริษัทไอทีชื่อดังที่ก่อตั้งโดยคนยูเครนมากกว่า 4,000 แห่ง และเป็นที่ตั้งของสำนักงานสาขา และศูนย์วิจัยและพัฒนาของบิ๊กเทคระดับโลกอีกมากมาย อาทิเช่น Microsoft ,Snap, Samsung, Ericsson, Boeing, Siemens
แต่ละปีประเทศนี้ผลิตนักศึกษาด้านวิศวกรรมได้ถึงปีละ 130,000 คน และนักศึกษาเฉพาะทางด้านไอทีอีก 16,000 คน ซึ่งนับว่าเป็นจำนวนมากเมื่อเทียบกับขนาดของพื้นที่ประเทศ อีกทั้งเนื่องด้วนค่าครองชีพที่ถูกก ประกอบกับการมีแรงงานที่เชี่ยวชาญด้านไอทีจำนวนมาก ทำให้ยูเครนเป็นเสมือนเป้าหมายแห่งการลงทุนของบิ๊กเทคจากทั่วโลก
อุตสาหกรรม IT ในยูเครน
ปัจจุบันยูเครนนั้นมีผู้เชี่ยวชาญด้านไอที 240,000 คน และคาดว่าตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 450,000 คน ภายในปี 2024 “ไอทีฮับ” ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศยูเครนนั้นตั้งอยู่ที่เมืองหลวงคือเคียฟ แต่ทว่าเมืองอื่นอย่างโอเดสซาหรือคาร์คีฟ ก็ถูกยอมรับว่าเป็นศูนย์กลางด้านไอทีไม่แพ้กัน
ขนาดในช่วงที่ทั่วโลกได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด แต่ทว่าอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของยูเครนก็ยังเติบโตอย่างต่อเนื่องเป็นอย่างดี ยูเครนยังติดอันดับที่ 30 ของประเทศที่มีระบบนิเวศสำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่ดีที่สุดของโลก จากการจัดอันดับของ StartupBlink และติดอันดับที่ 50 ใน Global Innovation Index ประจำปี 2020 ข้อมูลล่าสุดที่ถูกรวบรวมในปี 2021 ของ TechCrunch พบว่า มีเทคสตาร์ตอัพที่ก่อตั้งโดยคนยูเครนกว่า 2 หมื่นแห่ง แถมยังมีมีบริษัท Fortune 500 กว่า 100 แห่งที่ใช้บริการไอทีจากบริษัทไอทีชั้นนำของยูเครน นักประดิษฐ์และนักพัฒนาชาวยูเครนนั้น แท้จริงแล้วค่อนข้างมีอิทธิพลต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีโลก
- เริ่มกันที่ Gitlab ซอฟต์แวร์ opensource ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากเพราะมีระบบการจัดการโครงการครบครัน พัฒนาขึ้นในปี 2014 โดย Sid Sijbrandij และ Dmitriy Zaporozhets ซึ่งในปัจจุบันมีผู้ใช้งาน 30 ล้านคนและมีมูลค่าถึง 1.65 หมื่นล้านเหรียญ มีพนักงานทั่วโลก 1,200 คน ใน 65 ประเทศ เป็น “decacorn” อีกแห่งจากยูเครน และเป็นสตาร์ตอัพที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเลยก็ว่าได้
- แอปพลิเคชั่นเกลาภาษา และไวยากรณ์ภาษาอังกฤษที่มีผู้ใช้งานทั่วโลกวันละ 30 ล้านคน อย่าง Grammarly พัฒนาขึ้นในปี 2009 โดยชาวยูเครน 3 คน ได้แก่ Dmytro Lider , Alex Shevchenko และ Max Lytvyn บริษัทที่มีมูลค่าถึง 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ปัจจุบันเป็นเทคสตาร์ตอัพระดับ “decacorn” เจ้าแรกของยูเครน โดยมูลค่าก่อนเกิดสงครามอยู่ที่ 1.3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
- ซอฟต์แวร์ชื่อดังอีกตัวที่พัฒนาขึ้นโดยชาวยูเครน ในปี 2014 เพื่อช่วยตามหาคนด้วยการใช้เทคโนโลยี AI ในการประมวลผลข้อมูลต่าง ๆ แทนการใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้าที่นักพัฒนามองว่าเป็นการละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัว และมีโอกาสคลาดเคลื่อนจากอคติด้านเชื้อชาติและสีผิว ที่เรียกกันว่า Traces.AI
- ซอฟต์แวร์ตัดต่อ สลับหน้าด้วยระบบ AI ที่กำลังมาแรงทั้งในกลุ่มผู้ใช้งานทั่วไป หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า RefaceAI และใช้ในวงการบันเทิง และเกมมิ่ง ก่อตั้งโดย Roman Mogylnyi, Ivan Altsybieiev , Oles Petriv ,Dmytro Shvets และ Yaroslav Boiko ในปี 2011
ปิดท้ายกันด้วย
- Netpeak บริษัทที่ให้บริการ “ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง” ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ก่อตั้งโดย Artyom Borodatyuk Andrey Chumachenko , Dmitrii Piskarevและ ในปี 2006
ความสำเร็จและการพัฒนาด้านเทคโนโลยีของยูเครนเหล่านี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าทุกโลกของเราในทุกว้นนี้ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมที่ไร้พรมแดน
ประเทศเล็กๆอย่าง“ยูเครน” อาจไม่ค่อยมีคนรู้จักว่าเป็นฮับทางด้านเทคโนโลยีของโลกขนาดไหน อาจเป็นประเทศที่ดูห่างไกล อาจทำให้สิ่งที่เกิดขึ้นกับคนในประเทศยูเครนดูเป็นเรื่องไกลตัว
การช่วยเหลือจากสงคราม ในอุตสาหกรรมไฮเทค
แต่ความจริงแล้วตอนนี้ผู้คนทั่วโลกต่างได้รับผลกระทบจากสงครามในครั้งนี้โดยทั่วกัน โดยเฉพาะผลกระทบต่อค่าครองชีพที่เป็นผลมาจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ และประเทศในแถบยุโรปยังได้รับผลกระทบจากราคาแก๊สที่สูงกระฉูดขึ้นในเวลาเพียงไม่กี่วันจนน่าตกใจ ส่งผลให้สินค้าอุปโภค บริโภค และอุตสาหกรรมทางการเกษตรต่างได้รับผลกระทบไปด้วยเช่นกัน
ตอนนี้เราลองมาดูกันว่า ในเมื่อปัจจุบันอุตสาหกรรมทางด้านไอทีและเทคโนโลยีต่างๆที่มียูเครนเป็นผู้ที่ตกเป็นเป้าในสงคราม ก็จะมีผลกระทบไปด้วยเช่นกัน ดังนั้นบรรดาแวดวงเทคโนโลยีและบริษัทยักษ์ใหญ่ที่เป็นผู้นำทางด้านก็ไม่สามารถเพิกเฉยต่อสงครามครั้งนี้ไปได้เช่นกัน ต่างรวมตัวกันเพื่อช่วยเหลือผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกันผู้ประกอบการร่วมอาชีพและนักพัฒนาไอทีหัวกะทีที่มีความสามารถในประเทศยูเครนอย่างสามัคคี อาทิเช่น
- อุตสาหกรรมคาสิโนออนไลน์ถึงแม้จะมีกฎหมายจะถูกห้ามเล่นในยูเครนในปี 2021 แต่บริษัท Parimatch ที่เป็นเว็บสปอร์ตบุ๊คออนไลน์ เป็นหนึ่งในบริษัทเก่าแก่ของยูเครน ที่ก่อตั้งขึ้นใน Kyiv ในปี 1994 ซึงปัจจุบัน บริษัทตั้งอยู่ที่ ไซปรัส และได้สนับสนุนบริจากเงินให้กับกองทัพยูเครน
- ในการตอบสนองนักพัฒนาชาวยูเครนรวมถึง Frogwares (The Sinking City, Sherlock Holmes), Tallboys (Pandemic Express, Where the Clouds End), Vostok Games (ทำงานกับเกมยิง AAA ที่ยังไม่ประกาศ) และ GSC Game World (Stalker and Stalker 2) ได้ออก แถลงการณ์ผ่านบัญชี Twitter อย่างเป็นทางการเรียกร้องให้ยูเครนเป็นเอกราชและยุติการโจมตีประเทศของพวกเขา ทั้ง GSC Game World และองค์กรอีสปอร์ตยูเครน Natus Vincere (NAVI) ได้เรียกร้องให้ช่วยเหลือกองทัพยูเครนเพิ่มเติม
- สตูดิโอยูเครนอื่น ๆ ยังไม่ได้ออกแถลงการณ์ในขณะนี้ แต่ยังคงดำเนินการเพื่อความปลอดภัยของทีมของพวกเขา IGN ได้พูดคุยทางอีเมลกับ Alexey Menishikov ซีอีโอของ Beatshapers ซึ่งยืนยันว่าขณะนี้สตูดิโอในเคียฟกำลังถูกอพยพไปทางตะวันตกของยูเครนและโปแลนด์ เรายังติดต่อกับผู้พัฒนา 4A ของ Metro และ Prime World: Defenders ซึ่งเป็นสตูดิโอพัฒนาร่วม Red Beat แต่ยังไม่ได้รับการตอบกลับ
- IGN ยังได้ติดต่อ Ubisoft สำหรับการอัปเดตใด ๆ ในสตูดิโอในยูเครนและได้รับคำชี้แจงต่อไปนี้: “ความปลอดภัยและสวัสดิภาพของสมาชิกในทีมเป็นสิ่งที่เรากังวลหลักเสมอ เรากำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและได้ดำเนินการตามมาตรการหลายอย่างเพื่อช่วยให้ทีมของเราในยูเครนปลอดภัย นอกจากนี้ เรายังให้ความช่วยเหลือและช่วยเหลือสมาชิกในทีมทุกคนอีกด้วย ไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติมที่จะแบ่งปันในขณะนี้ แต่จะติดตามและปรับให้เข้ากับสถานการณ์ต่อไปเมื่อมีวิวัฒนาการ”
- Valorant Champions Tour ของ Riot Games ได้เลือกที่จะเลื่อนการแข่งขันออกไปในสัปดาห์นี้ เนื่องจากจำนวนผู้เล่น แคสเตอร์ พนักงาน และแฟน ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากการบุกรุก
- Serenity Forge ผู้จัดพิมพ์ Death's Gambit: Afterlife ได้แบ่งปันคำแถลงต่อไปนี้จากผู้ร่วมก่อตั้ง Zhenghua 'Z' Yang เกี่ยวกับความพยายามของบริษัทในการสนับสนุนพันธมิตรด้านการพัฒนาในยูเครน Serenity Forge ทำงานร่วมกับนักพัฒนาที่มีพรสวรรค์ในยูเครน ซึ่งช่วยเหลือเราและ White Rabbit ด้วยเวอร์ชัน Xbox ของ Death's Gambit แต่น่าเสียดายที่เขาเริ่มหลบหนีเพื่อความปลอดภัยของเขาหลังจากการรุกรานเมื่อคืนก่อนเริ่มต้นขึ้น" Z กล่าว "เราได้คุยกับเขาเพื่อพยายามย้ายเขาไปที่สำนักงานใหญ่ของเราในโบลเดอร์ รัฐโคโลราโด แต่น่าเสียดายที่เวลาหมดลงเนื่องจากสำนักงานและบริการในสหรัฐฯ ปิดตัวลงอย่างรวดเร็วในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา ล่าสุดคุยกับเขาเมื่อวานนี้ ฉันเชื่อว่าเขาปลอดภัย แต่นั่นอาจไม่เป็นความจริงอีกต่อไปเนื่องจากเขาไม่พร้อมสำหรับการติดต่อสื่อสารอีกต่อไป เราจะกลับมาพัฒนา Death's Gambit เวอร์ชัน Xbox ต่อเมื่อเป็นไปได้ แต่ปัจจุบันความกังวลหลักของเราคือทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อให้เพื่อนและเพื่อนร่วมงานของเราปลอดภัย"
- บริษัทนอกยูเครนก็ให้การสนับสนุนเช่นกัน 11 Bit Studios ผู้สร้าง This War of Mine ชาวโปแลนด์ ออกแถลงการณ์ต่อต้านสงคราม ในขณะเดียวกันก็ประกาศว่าจะบริจาคผลกำไรทั้งหมดจาก This War of Mine และ DLC ทั้งหมดบนแพลตฟอร์มและร้านค้าทั้งหมดให้กับสภากาชาดยูเครนเพื่อสนับสนุนผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ หน้าร้าน GOG ติดตามด้วยการประกาศว่าจะบริจาคผลกำไรทั้งหมดจากหุ้นของตนเองในการขาย This War of Mine ให้กับสภากาชาดยูเครนเช่นกัน
- ผู้จัดพิมพ์ Raw Fury ได้ออกแถลงการณ์เพื่อสนับสนุนยูเครนพร้อมกับเรียกร้องให้ดำเนินการเพื่อบริจาคให้กับสภากาชาดยูเครน: และ Draw Distance ผู้พัฒนาภาษาโปแลนด์ของ Serial Cleaner and Vampire: The Masquerade - Coteries of New York แสดงความสนับสนุนต่อยูเครนต่อสาธารณะด้วย
“ชาวยูเครนเป็นเพื่อนบ้าน เพื่อนร่วมงาน และพนักงานของเรา ความปลอดภัยของพวกเขาและความปลอดภัยของครอบครัวของพวกเขามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเรา เราขอประณามอย่างสุดใจที่รัสเซียโจมตียูเครน” สมาชิกคนอื่น ๆ ในอุตสาหกรรมเกมได้พูดเป็นรายบุคคลแยกจากคำแถลงของบริษัท Pete Parsons ซีอีโอของ Bungie โพสต์ธงชาติยูเครนบน Twitter
- Sergey Mohov หัวหน้านักออกแบบเกมเพลย์ของ Remedy ได้ออกมาปราศรัยต่อต้านการบุกรุกดังกล่าว และแบ่งปันทรัพยากรจำนวนหนึ่งสำหรับความช่วยเหลือจากยูเครน เช่นเดียวกับผู้สร้าง SteamSpy และผู้อำนวยการด้านกลยุทธ์การเผยแพร่ Sergiy Galyonkin ของ Epic Games
การโจมตีของรัสเซียในยูเครนเกิดขึ้นหลังจากหลายเดือนของกิจกรรมทางทหารของรัสเซียที่ทวีความรุนแรงขึ้นที่พรมแดนระหว่างทั้งสอง ความตึงเครียดระหว่างยูเครนและรัสเซียย้อนกลับไปจนถึงการแตกแยกอย่างเป็นทางการของยูเครนกับรัสเซียและลงคะแนนเสียงให้เป็นอิสระในปี 1991 การปฏิวัติ Maidan ในปี 2014 ที่ได้เห็นการถอดถอนประธานาธิบดียูเครนที่นับถือรัสเซียหลังจากที่เขาปฏิเสธที่จะลงนามในข้อตกลงกับสหภาพยุโรป และการผนวกไครเมียอย่างผิดกฎหมายในเวลาต่อมาของรัสเซีย
องค์กรช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจำนวนหนึ่งกำลังรับบริจาคและสนับสนุนความพยายามของพวกเขาในการช่วยเหลือชาวยูเครนที่ได้รับผลกระทบจากสงคราม พวกเขารวมถึง: Bungie ได้ประกาศว่าจะบริจาค 100% ของรายได้ใน 48 ชั่วโมงแรกของ Game2Give เพื่อผลักดันความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเพื่อตอบสนองต่อความขัดแย้งในยูเครน อุตสาหกรรมเกมเริ่มให้ความสนใจกับการเรียกร้องของยูเครนให้ดึงการสนับสนุนจากรัสเซียและเบลารุส โดย EA, Xbox และ PlayStation (เงียบกว่า) ดึงเกม ฮาร์ดแวร์ และบริการออกจากการขาย
- Plarium ผู้ผลิต Raid Shadow Legends ในยูเครน ประกาศบริจาคเงิน 500,000 ดอลลาร์ให้แก่สภากาชาดยูเครน และกำลังทำงานเพื่อสนับสนุนพนักงานกว่า 700 คนในภูมิภาค Kyiv, Lviv และ Kharkiv ผ่านที่พักพิง เสบียง อาหาร และการช่วยเหลือโดยตรง พวกเขายังให้ความช่วยเหลือในการเดินทางเพื่ออพยพพนักงานบางส่วนไปยังโปแลนด์และสถานที่ที่ปลอดภัยกว่าอื่นๆ สตูดิโอได้ระบุการดำเนินการหลายอย่างที่ผู้อื่นสามารถทำได้เพื่อสนับสนุนยูเครนและประชาชน “เราจะผ่านมันไปด้วยกัน เพราะความสามัคคีคือความแข็งแกร่ง ดูแลคนที่คุณรักและตัวคุณเอง เราจะต้องสร้างประเทศที่สวยงามของเราขึ้นมาใหม่เมื่อฝันร้ายนี้จบลง”
- สตูดิโอในเบลารุส Sad Cat Studios ประณามการโจมตีของรัสเซียในยูเครนและการมีส่วนร่วมของรัฐบาลในเหตุการณ์ “ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ สำหรับสงครามและความทุกข์ทรมานที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้” แถลงการณ์ระบุ Sad Cat ได้กล่าวว่าขณะนี้มุ่งเน้นไปที่ความเป็นอยู่ที่ดีของทีมตลอดจนการย้ายถิ่นฐาน
- Remedy Entertainment ผู้พัฒนา Control ได้ออกแถลงการณ์เพื่อสนับสนุนยูเครนโดยกล่าวว่าจะบริจาค 50,000 ยูโรให้กับสภากาชาดและให้การสนับสนุนโดยตรงแก่พนักงานชาวยูเครนรวมถึงครอบครัวและคนที่คุณรักที่บ้านและพนักงานชาวรัสเซีย " ตกตะลึงกับสงครามอันโหดร้ายนี้"
“โดยปกติเราไม่ได้ออกแถลงการณ์ต่อสาธารณะเกี่ยวกับเหตุการณ์ในโลก แต่การรุกรานยูเครนอย่างไม่ยุติธรรมโดยระบอบการปกครองของรัสเซียทำให้พวกเราทุกคนตกใจและประทับใจ” เรเมดีเขียน "เราหวังว่าสันติภาพจะชนะ"
- Room 8 Group สตูดิโอพัฒนางานรับจ้างซึ่งมีสำนักงานในยูเครนและทั่วโลก ได้ประกาศว่าเช่นเดียวกับพนักงานชาวยูเครนจะย้ายถิ่นฐานอย่างปลอดภัย จะบริจาคกำไรสุทธิของปี 2022 ให้กับองค์กรด้านมนุษยธรรมต่างๆ ที่ให้ความช่วยเหลือ สร้างยูเครนใหม่และสนับสนุนผู้ลี้ภัย
- Sega ได้ประกาศว่าจะบริจาคเงินที่ไม่ระบุจำนวนเพื่อช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในยูเครน รวมถึงการบริจาคที่ตรงกันของพนักงาน Koei Tecmo ยังบริจาคเงินจำนวน 500,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ให้กับ UNHCR ตามรายงานของ Famitsu (ผ่านทาง Kotaku) และบริษัทร่วมพัฒนา QLOC ได้บริจาคเงิน 1 ล้าน PLN ให้กับคณะแพทยศาสตร์โปแลนด์เพื่อซื้อยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับยูเครน .
- David Doak นักออกแบบเกมชื่อดัง ซึ่งเป็นที่รู้จักจากผลงานของเขาใน Golden Eye 007 ได้บริจาคสำเนาเกมที่ลงนามโดยเขาเองคือ Steve Ellis และจะลงนามโดย Martin Hollis เพื่อประมูลรายได้ทั้งหมดจะมอบให้ สภากาชาดยูเครน การประมูลปิดในวันที่ 12 มีนาคม
- และตอนนี้ itch.io Bundle สำหรับยูเครนได้เปิดให้ใช้งานแล้ว และได้ระดมทุนไปแล้วกว่า 2 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเกินเป้าหมายเดิมที่ $100,000 บันเดิลประกอบด้วยเกมมากกว่า 1,000 เกม มูลค่ากว่า 6,500 ดอลลาร์ โดยบริจาคขั้นต่ำ 10 ดอลลาร์ และรายได้ทั้งหมดจะมอบให้ยูเครน
บริษัทเกมต่าง ๆ ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น Nintendo, Epic Games, Tencent และ Rockstar ได้ดำเนินการระงับการจัดจำหน่ายเกมทั้งหมดในประเทศรัสเซียโดยทันที ตามคำเรียกร้องของ Mykhailo Fedorov รองนายกรัฐมนตรีของยูเครน
ดังนั้นไม่ว่าสงครามครั้งนี้จะจบลงเมื่อไรและเช่นไร ก็จะเห็นได้ว่า มันไม่ใช่เป็นเพียงสงครามระหว่างยูเครนและรัสเซียเท่านั้น ถ้าจะมองกันจริงๆแล้ว มันก็เหมือนกับทั่วโลกต่างก็ได้เข้าร่วมและได้รับผลกระทบตามกันไปไม่มากก็น้อย และตอนนี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า สงครามไม่จำเป็นต้องต่อสู้และแลกมาด้วยเลือดเนื้อและชีวิตเท่านั้น แต่ทว่าสงครามยังดำเนินต่อไปแต่อาวุธที่นำมาสู้กันอาจเป็นด้านลูกล่อลูกชนในด้านเศรษฐกิจและทรัพยากรที่สามารถนำมาใช้เป็นเครื่องต่อรองได้เช่นกัน