บุนเดสลีก้าลีค การแข่งขันที่มีผู้ชมในสนามอย่างล้นหลามมายาวนาน
ถ้าหากจะพูดถึงกีฬาฟุตบอลแล้ว สิ่งที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งก็คือแฟนบอล เชื่อว่าแฟนๆที่ชื่นชอบการพนันบอลออนไลน์หรือแม้จะเป็นเพียงแฟนบอลที่ดูฟุตบอลด้วยใจรักไม่ว่าจะนักกีฬา รูปแบบการแข่งขันหรือสไตล์ลีลาการเล่น หลายๆคนคงพอจะทราบว่าลีกการแข่งขันที่ให้ติดตามรับชมและเชียร์นั้นมีมากมาย ซึ่่งในแต่ละประเทศก็จะมีลึกการแข่งขันจากทีมสโมสรภายในประเทศของตน ไม่ว่าจะเป็นพรีเมียร์ลีกของอังกฤษ ,ลาลิก้าลีกของสเปน ,เซเรียอาของอิตาลี แต่บทความนี้เราจะพูดถึงบุนเดสลีก้าลีก ของทางประเทศเยอรมันนี ซึ่งมีความโดดเด่นมาในเรื่องของฐานแฟนบอลที่เหนียวแน่น และไม่ว่าจะแข่งแต่ละครั้งเราก็จะได้เห็นแฟนบอลไปเชียร์กันเต็มสนาม ส่งเสียงเชียร์กันอย่างเมามันส์ชนิดที่ว่าหากได้ลองไปสัมผัสบรรยากาศในสนามการแข่งขันจริงสักครั้ง รับรองว่าประทับใจไม่รู้ลืม
แม้หลายคนจะมองว่าแทบไม่มีซุปเปอร์สตาร์ค่าตัวแพง โค้ชก็เป็นเพียงคนท้องถิ่นอายุน้อยไม่ได้มีประวัติเป็นอดีตนักบอลตัวท๊อปหรือติดระดับโลกอะไร ในทีมก็ไม่ได้มีการทุ่มทุนซื้อตัวนักเตะแบบทุ่มทุนมหาศาล แต่เชื่อหรือไม่ว่า บุนเดสลีก้าลีก เป็นการแข่งขันฟุตบอลที่มีค่าเฉลี่ยแฟนบอลเข้าไปดูในสนามมากที่สุดในโลก
อะไรทำให้บุนเดสลีก้าลีกมีค่่าเฉลี่ยผู้ชมในสนามสูงที่สุดในโลกได้
เมื่อมีการแข่งขันก็ย่อมมีผู้ชมผู้เชียร์เป็นธรรมดา ถ้าหากจะพูดถึงว่าอะไรเป็นเหตุให้บุนเดสลีก้าลีก เด่นดังด้านการเชียร์ในสนามอย่างยากที่จะหาลีกใดเหมือนได้ เรื่องนี้ก็ต้องย้อนกลับไปพูดถึงแนวความคิด ทัศนคติ และวัฒนธรรมของคนเยอรมันกับกีฬาฟุตบอลกันก่อน ซึ่งจริงๆแล้วการแข่งขันฟุตบอล การก่อตั้งสโมสร และโลกของฟุตบอลของคนเยอรมันนั้นมันเริ่มต้นจากคนรากหญ้า คือกีฬาที่เป็นท้องถิ่นนิยมของพวกเขาและยังยึดมั่นกับจุดนี้มาตั้งแต่อดีต และแทบไม่มีวันที่จะเปลี่ยนแปลงไป นี่คือเหตุผลหลักๆที่ทำให้บุนเดสลีกาลีกนั้นได้รับความนิยมจากแฟนบอลท้องถิ่นเป็นหลัก เขามีเป้าหมายคือคนในท้องถิ่นที่นั่นจะได้รับการผลักดันและสนับสนุนให้เข้ามาอยู่ในทีม และที่สำคัญมากกว่านั้นคือ ค่าตั๋วต้องไม่แพง เพื่อที่จะได้ให้แฟนบอลท้องถิ่นสามารถซื้อตั๋วเข้ามาเชียร์ทีมของพวกเขาได้ จากตัวเลขที่ออกมาพบว่าค่าเฉลี่ยค่าตั๋วต่อเกมส์นั้นอยู่ที่ 5.4 ยูโรเท่านั้น หรือประมาณเกือบสองร้อยบาท ซึ่งนับว่าถูกมาก ซึ่งหากเทียบกับพรีเมียร์ลีกของอังกฤษนั้น ค่าตั๋วเฉลี่ยต่อเกมส์นั้นอยู่ประมาณ 1,200 บาท ซึ่งมากว่ากัน 6-7 เท่า นี่คือหัวใจสำคัญที่บุนเดสลีกาลีกเชื่อว่าการที่ทำให้คนท้องถิ่นสามารถซื้อตั๋วเข้ามาดูได้ทุกระดับ ทุกชนชั้น จะเป็นการสนับสนุนวงการฟุตบอลและลีกได้อย่างยาวนาน เพราะเขาเชื่อว่าการที่วงการฟุตบอลรุ่งเรืองได้นั้น แฟนบอลในสนามนับว่าเป็นส่วนสำคัญที่จะสร้างความคึกคักเพื่อสร้างบรรยากาศในสนามได้ยอดเยี่ยมที่สุด และเมื่อการดูฟุตบอลพร้อมกับบรรยากาศที่หาได้ยากยิ่ง ก็จะเป็นการดึงแฟนบอลเข้าสู่สนามได้มากที่สุดเช่นกัน และต้องไม่กระเทือนถึงเงินในกระเป๋าของแฟนบอลท้องถิ่นด้วย ถ้าถามว่าบุนเดสลีก้าลีก ที่ตอนนี้อยู่ในโลกที่ทุกคนก็นึกถึงผลประโยชน์และตัวเงินเป็นหลัก และจะขึ้นค่าตั๋วได้ไหม ก็ตอบได้ว่าเขาสามารถขึ้นได้แต่ทว่าบุนเดสลีก้าลีกไม่มีความจะเป็นตรงนั้น ซึ่งต่างไปจากพรีเมียร์ลีก ที่จะพบว่าค่าตั๋วนั้นขึ้นอย่างต่อเนื่องจนทำให้ฟุตบอลอังกฤษเข้าสู่ระบบทุนนิยมเต็มตัวธุรกิจเต็มขั้น จนกลายเป็นผลประโยชน์เสียมากกว่า พรีเมียร์ลีกจะเน้นกลุ่มลูกค้าที่พร้อมจ่ายค่าตั๋วแพงเพื่อไปสัมผัสบรรยากาศภายในสนามสักครั้ง ซึ่งนี่เป็นกลุ่มลูกค้าพรีเมียร์ลีกต้องการจะดึงเข้าไป และต่อให้ค่าตั๋วของพรีเมียร์ลีกจะแพงทะลุไปขนาดไหนก็ตามแต่ แต่ก็ยังมีแฟนบอลทั่วโลกไม่เกี่ยงที่จะซื้อตั๋วราคาแพงเพื่อไปดูทีมหรือนักเตะในฝันสักครั้งอย่างแน่นอน
แต่บุนเดสลีก้าลีก ไม่ได้ให้ความสนใจในเรื่องนี้ แต่กลับมองว่าคนท้องถิ่น คนรากหญ้าและแนวคิดท้องถิ่นนิยมจะช่วยให้บุนเดสลิก้าอยู่ไปได้อย่างยาวนาน ซึ่งการวางแผนระยะยาวของบุนเดสลีก้านั้นคือเน้นความมั่นคงและเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆโดยที่ทุกฝ่ายมีความสุขในการเชียร์ฟุตบอลกับคนท้องถิ่น ทำให้สโมสรท้องถิ่นแต่ละที่นั้นมีความมั่นคงมากๆ
หากไม่ยอมเป็นทุนนิยม แล้วบุนเดสลีกาใช้นโยบายอะไร
อาจเคยเห็นข่าวแฟนบอลเยอรมันประท้วงเรื่องค่าตั๋วแพงเมื่อเขาไปชมทีมที่ตนชื่นชอบที่อังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นการเขียนป้ายด่า ซื้อตั๋วแต่ไม่เข้าชม หรือกระทั่งโยนเงินปลอมลงสนาม เนื่องจากเขาเห็นว่าการมีค่าตั๋วแพงก็ไม่เห็นจะส่งผลดีกับแฟนบอล นอกจากจะทำให้แฟนบอลท้องถิ่นเข้าชมทีมโปรดได้ยากยิ่งขึ้นก็เท่านั้น ซึ่งทุกวันนี้แฟนบอลบุนเดสลีก้าลีกไม่ได้มีเพียงคนเยอรมัน แต่มีแฟนบอลจากประเทศอื่นที่หันมาซื้อตั๋วเชียร์ทีมท้องถิ่นในบุนเดสลีก้าลีกมากขึ้น เนื่องจากสู้ราคาค่าตั๋วที่แพงอย่างพรีเมียร์ลีกไม่ไหว เลยหันมาเป็นแฟนบอลเชียร์ทีมระดับรากหญ้าของเยอรมันแทน
เมื่อผู้บริหารของบุนเดสลีกามีแนวคิดไปในทางเดียวกันคือไม่ต้องการผลักภาระไปให้กับแฟนบอลด้วยการขึ้นค่าตั๋ว แล้วบุนเดสลีก้าบริหารตนเองมาได้อย่างไรล่ะ แนวคิดของทางผู้บริหารบุนเดสลีก้าที่มีมาตั้งแต่อดีตออกกฏว่า แฟนบอลต้องมีสิทธ์ในการเป็นเจ้าของสโมสรร่วมด้วย นั่นก็คืออย่างน้อยต้องมีแฟนบอลถือหุ้นในสโมสร 51 % นี่คือสิ่งที่ปลูกฝังกันมา และมันก็ได้ผล ดังนั้นภาพที่นายทุนต่างประเทศจะมาซื้อสโมสรหรือมาเทคโอเวอร์และกอบโกยผลประโยชน์กลับไปจะไม่มีทางเกิดขึ้นกับบุนเดสลีก้าอย่างแน่นอน เนื่องจากวงการฟุตบอลเยอรมันให้ความสำคัญกับแฟนบอลท้องถิ่นของตน และถือว่าพวกเขาเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญ ดังนั้นหลายๆการตัดสินใจ ก็ต้องใช้แฟนบอลเป็นตั้วตั้งสำคัญเพราะถือว่าแฟนบอลเหล่านี้คือเจ้าของสโมสรของวงการฟุตบอลเยอรมัน เมื่อสโมสรเป็นของแฟนๆ ดังนั้นทางแฟนบอลก็มีสิทธ์ที่จะไม่ขึ้นราคาค่าตั๋วเข้าชม และสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือเมื่อแฟนบอลเป็นเจ้าของสโมสรดังนั้นพวกเขาจะผูกพันกับสโมสรของตนเป็นอย่างมาก ตามเชียร์แทบทุกการแข่งขันก็สามารถทำได้ เนื่องจากตั๋วไม่แพงกระเป๋าไม่ฉีก และต่อให้ทีมของพวกเขาไม่เด่นไม่ดังแต่ก็อยากให้ทีมประสบความสำเร็จไปด้วยกัน ความรู้สึกของการได้เป็นเจ้าของสโมสรก็ทำให้แฟนๆตีตั๋วเข้าชมการแข่งขันของทีมท้องถิ่นของตนเป็นจำนวนมาก และก็มีความหมายกับทีมขนาดเล็กเช่นกัน ซึ่งต่อให้ทีมของตนจะเล่นได้ห่วยแค่ไหน แต่แฟนบอลก็ยังเลือกที่จะเข้าชมในสนามเพราะถือว่าเขาก็คือหนึ่งในเจ้าของสโมสร และการได้เป็นเจ้าของสโมสรก็จะมีความรู้สึกว่าต้องร่วมหัวจมท้ายไปกับทีมเช่นกัน
เมื่อสโมสรฟุตบอลเป็นของแฟนบอล มันก็กลายเป็นองค์กรที่เกี่ยวโยงกันทั้งหมดโดยมีแฟนบอลท้องถิ่นเป็นตัวขับเคลื่อน และแต่ละท้องถิ่นก็จะมีอัตลักษณ์ของตนเองเช่นกัน นี่เสมือนการสร้างคาแรคเตอร์ของสโมสรซึ่งก็มาจากฐานของแฟนบอลแต่ละทีมนั่นเอง ซึ่งเอกลักษณ์ของแต่ละทีมก็จะมีมาอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นสโมสรที่เป็นเสมือนตัวแทนของชนชั้นแรงงานอย่างเต็มตัว หรือแนวคิดฝั่งซ้ายที่ต่อต้านเผด็จการ ซึ่งเมื่ออยู่ในสนาม ก็เหมือนกับการใชพื้นที่ตรงนี้ในการแสดงออกทางด้านความคิดความรู้สึกในเรื่องต่างๆ ที่พวกเขาไม่สามารถแสดงออกในชีวิตประจำวันได้ไม่ว่าจะเป็นสังคม การเมือง เศรษฐกิจ มันทำให้เสมือนว่ามันคือพื้นที่ของพวกเขาจริงๆ และการที่แฟนบอลได้เป็นเจ้าของสโมสรมันก็เป็นเหมือนการได้เพิ่มคุณค่าให้กับทีมฟุตบอลที่เป็นมากกว่าแค่ทีมกีฬา นี่ทำให้แฟนๆตีตั๋วเข้าสู่การชมบุนเดสลีก้าลีกได้อย่างเหนียวแน่นมาตั้งแต่ในอดีตจนปัจจุบัน
แรงดึงดูดอื่นๆนอกจากค่าตั๋วถูก
ในการแข่งขันลีกใหญ่ๆในประเทศอื่นเช่นพรีเมียร์ลีก เป็นไปได้ยากมากที่แฟนๆจะสามารถมีสิทธ์เข้าไปดูการซ้อมของทีมที่ตนรัก เนื่องจากสโมสรเป็นแบบทุนนิยมและยากที่คนธรรมดาทั่วไปหรือคนรากหญ้าจะเข้าถึงได้ง่ายๆ แต่สำหรับบุนเดสลีก้านั้นมีแนวคิดที่เฉียบมาก คือทุกๆสโมสรจะมีวันที่เรียกว่า Public Training คือซ้อมแบบเปิด คือเปิดให้คนสามารถเดินเข้าไปดูได้เลย ไม่ว่าจะเป็นสโมสรใหญ่ๆ เช่นดอทมุน หรือบาร์เยิน มิวนิก คือจะเปิดให้แฟนๆเข้าไปดูการซ้อมริมรั้วได้อย่างเต็มที่ เหมือนกับเป็นวันครอบครัวของแฟนบอลจริงๆ แต่มันไม่ได้ทำให้นักเตะเสียสมาธิแต่อย่างใด เอาเข้าจริงๆแล้ว วันนั้นถือเป็นวันที่ทางสโมสรซ้อมกันอย่างผ่อนคลายที่สุด ไม่ได้เน้นกลยุทธ์หรือแผนการเตะแต่อย่างใด เหมือนการซ้อมเพื่อให้แฟนๆได้มีโอกาสใกล้ชิดกับทีมของตนเสียมากกว่า ส่วนมากก็จะเป็นวันพฤหัสหรือศุกร์ ก่อนลงสนามแข่งจริง เป็นการซ้อมเบาๆให้แฟนบอลเข้ามาดู ซึ่งจุดนี้เองที่ทำให้ความใกล้ชิดของแฟนบอลและสโมสรนั้นแนบแน่นกันมากขึ้น
ผลของการให้แฟนบอลเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ
ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมานี้มันคือการวางแผนอย่างเป็นเหตุเป็นผลมาตั้งแต่แรกเริ่มของการก่อตั้งบุนเดสลีก้าลีก ที่ให้ความสำคัญกับแฟนบอลมากที่สุด ไม่ใช่แค่เงินในกระเป๋าแฟนบอลเท่านั้น และสิ่งนี้ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ากลยุทธ์ของบุนเดสลีก้าลีกที่บริหารมานั้นได้ผล เมื่อดูจากตอนช่วงการแพร่ระบาดของโควิดที่ผ่านมา ก่อนที่จะระงับการแข่งขันชั่วคราวกลับพบว่า 11 ทีมในบุนเดสลีก้าลีกนั้น ที่ค่าเฉลี่ยผู้ชมมีมากกว่าสี่หมื่นคน ซึ่งนับว่าสูงกว่าทีมในพรีเมียร์ลีกของอังกฤษและลาลีก้าลีกของสเปน ที่สำคัญเมื่อวิกฤติโควิดตรงนี้เกิดขึ้นทำให้เห็นว่าหลายๆสโมสรในบุนเดสลีก้าอยากคืนอะไรให้กับสังคม หลายๆสโมสรปรับสนามหญ้าของทางสโมสรให้กลายเป็นโรงพยาบาลสนาม และนี่เป็นตัวอย่างให้เห็นว่าบุนเดสลีก้านั้นสามารถเติบโตด้วยตัวเองได้โดยมีแฟนบอลท้องถิ่นเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญ และไม่จะเป็นต้องยึดถือเม็ดเงินหรือผลประโยชน์ทางธุรกิจเป็นหลักเสมอไป
ก่อตั้ง
บุนเดสลีก้า ก่อตั้งเมื่อปี 1963 ภายใต้การบริหารของสมาคมฟุตบอลเยอรมันและเป็นการแข่งขันลีกสูงสุงของประเทศเยอรมนี บุนเดสลีกาคือการแข่งขันฟุตบอลหลักของประเทศเยอรมนี ประกอบไปด้วย 18 ทีมและมีฤดูการแข่งขันเดือนสิงหาคมถึงพฤษภาคม โดยเกมการแข่งขันส่วนใหญ่จะเล่นกันในวันเสาร์และอาทิตย์ และมีเพียงไม่กี่เกมการแข่งขันเท่านั้นทีจะเล่นในวันธรรมดา ทีมที่ชนะเลิศล่าสุดคือบาร์เยิน มิวนิค และนับได้ว่าเป็นทีมที่ได้ถ้วยมากที่สุดด้วยเช่นกัน
ทีมเด่นในบุนเดสลีก้าลีก
- บาร์เยิน มิวนิค
- โบรุสเซีย ดอร์ทมุนต์
- อาร์บี ไลป์ซิกส์
- ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น
- โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค