Arsanal อาร์เซน่อล
Arsenal ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1886 ที่วูลิช โดยกลุ่มคน 15 คน ช่วยกันบริจาคเงินคนละ 6 เพนซ์ เป็นค่าตั้งสโมสร ที่รอยัลโอ๊คผับ (ซึ่งความหมายนี้ได้ปรากฏอยู่ในสัญลักษณ์สโมสรในวาระครบรอบ 125 ปีของการก่อตั้ง และในปี ค.ศ. 1893 เป็นสโมสรแรกจากลอนดอนใต้ที่ร่วมในฟุตบอลลีก
ต่อมาในปี ค.ศ. 1913 สโมสรได้ย้ายมายังลอนดอนเหนือ ย้ายสนามมายังอาร์เซนอลสเตเดียมในไฮบรี ในคริสต์ทศวรรษ 1930 สโมสรครองแชมป์ลีกแชมเปียนชิป 5 สมัยและเอฟเอคัพ 2 สมัย และในยุคหลังสงครามชนะในลีกและเอฟเอคัพทั้งสองถ้วยในฤดูกาล 1970–71 และในคริสต์ทศวรรษ 1990 และคริสต์ทศวรรษแรกของศตวรรษที่ 21 ครองสองถ้วยในฤดูกาลเดียว 2 ครั้ง และสามารถเข้าสู่รอบตัดสินในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกในปี ค.ศ. 2006 อาร์เซนอลมีทีมคู่ปรับร่วมเมืองในนอร์ทลอนดอน คือทอตนัมฮอตสเปอร์ ที่เรียกการแข่งขันว่า นอร์ทลอนดอนดาร์บี อาร์เซนอลเป็นสโมสรฟุตบอลที่มีมูลค่ามากเป็นอันดับ 4 ของโลก ในปี ค.ศ. 2012 โดยมีมูลค่า 1.3 พันล้านเหรียญดอลลาร์
ที่ตั้งสนามของสโมสรในฐานะเจ้าบ้าน
เอมิเรตส์สเตเดียม (อังกฤษ: Emirates Stadium) หรือ สนามกีฬาเอมิเรตส์ คือ สนามฟุตบอลที่มีที่ตั้งอยู่ที่แอชเบอร์ตันโกรฟในฮอลโลเวย์ (Holloway) ลอนดอนเหนือประเทศอังกฤษ และเป็นสนามเหย้าของสโมสรฟุตบอล Arsenal ตั้งแต่เปิดใช้งานเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี ค.ศ. 2006 สนามแห่งนี้อัฒจรรย์จะเป็นเก้าอี้ทั้งหมด 60,355 ที่นั่ง มีการใช้ชื่อตามข้อตกลงของสายการบินเอมิเรตส์ ผู้สนับสนุนการก่อสร้างสนามนี้
เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2004 มูลค่าการก่อสร้างสนามอยู่ที่ 430 ล้านปอนด์ สนามแห่งนี้มีอัฒจันทน์ที่มีหลังคารายล้อมทั้ง 4 ทิศ แต่ที่พื้นสนามไม่มีหลังคาคลุม ออกแบบโดยสถาปัตยกรรม HOK Sport ห่างจากสนามไฮบิวรี สนามเดิมของอาร์เซนอลเพียงไม่กี่ร้อยเมตร วันที่ 5 ตุลาคม ค.ศ. 2004 มีการประกาศว่า สนามแห่งนี้จะใช้ชื่อว่า เอมิเรตส์สเตเดียม เป็นเวลาอย่างน้อย 15 ปี
หลังจากที่สโมสรตกลงรับเงินสนับสนุนมูลค่า 100 ล้านปอนด์สำหรับการก่อสร้างสนามจากสายการบินเอมิเรสต์แอร์ไลน์ โดยเงินจำนวนนี้รวมไปถึงการจ่ายเงินค่าโลโก้ของเอมิเรตส์บนเสื้อของอาร์เซนอลเป็นเวลา 8 ปีแล้ว เริ่มตั้งแต่ฤดูกาล 2006-07 เนื่องจากข้อบังคับของทางยูฟ่าเรื่องผู้สนับสนุนสนาม ในเกมการแข่งขันยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก สนามแห่งนี้จะไม่ใช้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า เอมิเรตส์สเตเดียม เนื่องจากเอมิเรตส์ไม่ได้เป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการของการแข่งขันแชมเปียนส์ลีก ยูฟ่าจึงใช้ชื่อสนามแห่งนี้ว่า “อาร์เซนอลสเตเดียม ” ซึ่งตรงกับชื่ออย่างเป็นทางการของสนามเดิมที่ไฮบิวรี
ทำเนียบโค้ชและผู้เล่นสำคัญในอตีดจนถึงปัจจุบัน
ช่วงที่ จอร์จ แกรแฮม เข้ามารับหน้าที่ผูจัดการทีมคุมบังเหียนได้สร้างชื่อเสียงมากมายทำให้กำเนิด อาร์เซน่อลยุค แบ็คโฟร์ หรือ 4+1 เดวิท ซีแมน นายทวาร, กองหลัง ลี ดิกสัน, สตีฟ โบลด์, โทนี อดัมส์, มาร์ติน คีโอว์น, ไนเจล วินเทอร์เบิร์น,กองกลาง เรย์ พาร์เลอร์ ตัวสำรอง , พอล เมอร์สัน, ปาทริค วิเอร่า, เดวิด แพล็ท, กองหน้า จอห์น ฮาร์ทสัน, เอียน ไรท์, เดนิส เบิร์กแคมป์ และ นิโคลา อเนลก้า ถูกซื้อตัวมาทำให้ จอห์น ฮาร์ทสัน ไม่มีที่ยืนในยุค อาร์แซน แวนเกอร์ อย่างไรก็ตาม ชื่อเสียงของแกรแฮมก็กลายเป็นความเสื่อมเสียเมื่อมีการเปิดเผยว่าเขาได้รับเงินสินบนจาก Rune Hauge เอเยนต์ของนักเตะในการซื้อตัวจากนั้น แกรแฮมก็โดนไล่ออกในปี 1995 และหมดยุคของเขา
ยุคของ อาร์แซน แวนเกอร์ ผู้จัดการทีมที่ครั้งนึง อเล็ก เฟอร์กูสัน กล่าวว่ารับมือยากที่สุด มีชุดผู้เล่นหลายคนที่โด่งดังในแต่ละยุค
ฤดูกาล 2003-2004 คือ ยุคที่แฟนปืนใหญ่หลายคน ยังคงจดจำไม่มีวันลืมกับความสำเร็จอันเกรียงไกร และยังคงเป็นเพียงสโมสรเดียวในพรีเมียร์ลีก ที่ยังรักษาสถิติไม่แพ้ใครตลอดทั้ง 38 นัด ในฤดูกาลนั้น จนถึงทุกวันนี้ นายทวาร เยนส์ เลห์มันน์, กองหลัง โลร็อง เอตาเม่, โคโล่ ตูเร่, โซล แคมพ์เบลล์, แอชลีย์ โคล, กองกลาง เฟดริค ลุงเบิร์ก, กิลแบร์โต้ ซิลวา, ปาทริค วิเอร่า, โรแบร์ ปิแรส, กองหน้า เดนนิส เบิร์กแคมป์, เธียร์รี่ อองรี นักแตะคุณภาพหลังจบฤดูกาลย้ายทีมบ้างเลิกเล่นบ้าง
- ยุคปัจจุบัน ฤดูกาล 2017-2018ภายใต้การคุมทีมของ Unai Emery อูไน เอเมรี คนที่เหมาะสมแล้วสำหรับการสานต่องานสิ่งที่ อาร์แซน เวนเกอร์ ได้วางรากฐานไว้
- ผู้รักษาประตู แม็ตต์ มาเคย์, ดาวิด ออสปิน่า, ปีเตอร์ เช็ก ,
- กองหลัง นาโช มอนเรอัล, แพร์ แมร์เตซัคเกอร์, โลร็องต์ กอสเซียลนี, เซอาด โคลาซินิช, ชโคดราน มุสตาฟี่, คอนสแตนตินอส มาฟโรปานอส, คาลั่ม แชมเบอร์ส, ร็อบ โฮลดิ้ง, เอ็คตอร์ เบลเยริน,
- กลองกลาง กรานิต ชาก้า, โมฮาเหม็ด เอลเนนี่, ซานติ กาซอร์ล่า, แจ็ค วิลเชียร์, อารอน แรมซี่ย์, เอนส์ลี่ย์ เมตแลนด์-ไนล์ส, เฮนริค มคิตาร์ยาน, เมซุต โอซิล,
- กองหน้า อเล็กซ์ อิโวบี้, แดนนี่ เวลเบ็ค, ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง, อเลซ็องดร์ ลากาแซ็ตต์
ผลงานทีม Arsenal
- พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แชมเปี้ยน
- 1930-31,1932-33,1933-34,1934-35,1937-38,1947-48,1952-53,1970-71,1988-89,1990-91,1997-98,2001-02,2003-04
- พรีเมียร์ลีก อังกฤษ รองผู้ชนะเลิศ
- 1925-26,1931-32,1972-73,1998-99,1999-2000,2000-01,2002-03,2004-05
- อิงลิชเอฟเอคัพ แชมเปี้ยน
- 1930,1936,1950,1971,1979,1993,1998,2002,2003,2005,2014,2015
- อิงลิชเอฟเอคัพ รองผู้ชนะเลิศ
- 1927,1932,1952,1972,1978,1980,2001
- อังกฤษลีกคัพ แชมเปี้ยน
- 1987,1993
- อังกฤษลีกคัพ รองผู้ชนะเลิศ
- 1968,1969,1988,2007,2011
- ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกรองชนะเลิศ
- 2006
- ยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพชนะเลิศ:
- 1994
- ยูฟ่ายูโรปาลีกชนะเลิศ:
- 1970
- ปัจจุบันฤดูกาลปี 2017-2018 ทำอันดับได้ดีแต่ก็ยังไม่ติดไปเล่นยูฟ่าแชมป์ลีก แต่อันดับที่ 6 ของตารางก็ยังพอทำให้ไอ้ปืนใหญ่ อาร์เซน่อลของเราได้ไปเล่น ยูโรป้าลีก ก็ยังดีครับช่วงปรับทีมถ่ายเลือดใหม่ต้องมีจุดเริ่มต้นแล้ว วันหนึ่งอาร์เซน่อลจะกลับมายิ่งใหญ่ได้เหมือนในอดีต
อันดับ | สโมสร | แข่ง | ชนะ | เสมอ | แพ้ | ได้ | เสีย | ประตู +/- | รวม |
1 | แมนเชสเตอร์ ซิตี้ | 38 | 32 | 4 | 2 | 106 | 27 | 79 | 100 |
2 | แมนฯ ยูไนเต็ด | 38 | 25 | 6 | 7 | 68 | 28 | 40 | 81 |
3 | สเปอร์ส | 38 | 23 | 8 | 7 | 74 | 36 | 38 | 77 |
4 | ลิเวอร์พูล | 38 | 21 | 12 | 5 | 84 | 38 | 46 | 75 |
5 | เชลซี | 38 | 21 | 7 | 10 | 62 | 38 | 24 | 70 |
6 | อาร์เซน่อล | 38 | 19 | 6 | 13 | 74 | 51 | 23 | 63 |
สถิติทีมอาร์เซน่อล
- ในฤดูกาล 1932-33, 1933-34, 1934-35 อาร์เซนอลเป็น 1 ใน 4 สโมสรของอังกฤษ ที่ได้แชมป์ลีกติดต่อกันมากที่สุด คือ 3 ครั้ง
- ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2001-02 อาร์เซนอลสามารถทำประตูได้ในทุกนัด เป็นสถิติสูงสุดของลีก
- ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2001-02 อาร์เซนอลชนะติดต่อกัน 14 นัด เป็นสถิติสูงสุดของพรีเมียร์ลีก (มีอีก 3 สโมสรคือ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด, บริสตอลซิตี้, เปรสตันอร์ธเอนด์ ที่ทำสถิติชนะติดต่อกัน 14 นัดเช่นกัน แต่ทั้งหมดนั้นเป็นสถิติในดิวิชั่น 2)
- ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2003-04 อาร์เซนอลไม่แพ้ใครตลอดฤดูกาล 38 นัด (ชนะ 26 เสมอ 12) เป็นครั้งแรกของพรีเมียร์ลีก และครั้งที่สองในประวัติศาสตร์ลีกสูงสุดของฟุตบอลอังกฤษต่อจาก เปรสตัน นอร์ธเอนด์ ในฤดูกาล 1888-89 ซึ่งขณะนั้นมีการแข่งขันเพียง 22 นัดต่อฤดูกาล อาร์เซนอลไม่แพ้ใครเลยในพรีเมียร์ลีกติดต่อกัน 49 นัด ระหว่างฤดูกาล 2002-03, 2003-04, 2004-05 ก่อนจะแพ้ให้กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เป็นสถิติไม่แพ้ใครติดต่อกันสูงสุดในลีกสูงสุดของประเทศ