แปลจากภาษาเยอรมัน โดย Patryk Czemarnik
เกมไพ่Marjolet
เกมนี้ใช้ไพ่คลาสสิกเล่น ไพ่มีเพียง 32 ใบ คือ A 10 K Q J 9 8 7 โดยตัดไพ่แต้มต่ำจาก 6 ถึง 2 ออกไป นี่คือการสะสมแต้มสูงสุดรวมถึงการหยิบเศษในเก็บไว้ด้านหนึ่ง และเก็บไพ่แต้มสูงไว้อีกด้านหนึ่ง
คำอธิบาย
Marjolet เป็นเกมที่นิยมกันมากทางตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส น่าจะแถวชายแดนของประเทศสเปน เป็นเกมที่แตกหน่อของเกม Bezique ซึ่งปรากฏในปารีสในปี 1847 สมัยนั้นมองว่า Marjolet เป็นเกมใหม่ และได้รับการบันทึกไว้ว่ามันคือเกมจริงๆ ครั้งแรกในปี 1878 เนื่องจากมันเป็นเกมทีเกิดในชายแดนสเปน จึงใช้ไพ่สเปนอันโด่งดังในการเล่นเกมนี้มาหลายศตวรรษ
เกมนี้ถูกจัดให้อยู่ในหมวดหมู่ของเกม Checkers and Valets ถึงแม้เกมนี้จะเล่นง่ายกว่า Bezique มาก เพี่ยงคอยจัดแต้มผสมไพ่ในมือให้ดีและรอจังหวะ
การเล่น
Marjolet จะใช้ไพ่สเปน 32 ใบในการเล่น เหมือนกับเกม Belote แต่การจัดเรียงไพ่ในการเล่นเกม Marjolet จะมีลักษณะโดยเฉพาะ คือจัดอันดับจากค่าสูงสุดไปต่ำสุดนั่นคือ Ace:10, King : 9, Queen : 8, Jack : 7 ไพ่แต้มสูงสุด 2 อันดับแรกคือ Ace และ King เรียกว่า Broken ส่วนแจ๊คนั้นจะเรียกว่า Marjolet เกมนี้เล่นง่ายเสียจนเด็กอายุ 14 ก็เริ่มเล่นกันได้แล้ว
เป้าหมายของเกม
ผู้เล่นจะต้องพยายามสะสมแต้มให้สูงที่สุด รวมถึงการหยิบไพ่เศษไว้ด้านหนึ่งและเผยไพ่ที่ดีและผู้ชนะคือคนที่เอามาผสมกันให้ได้แต้มตามที่กำหนดร่วมกันไว้ แต้มที่ชนะมักจะอยู่ที่ 500 หรือ 1,000 แต้ม
กฏของเกม
เริ่มที่จะมีคนแจกไพ่แบบสุ่ม ผู้ที่ได้แต้มต่ำสุดจากกองไพ่ จะเป็นเจ้ามือคนแรก เมื่อเลือกเจ้ามือได้แล้ว เขาก็จะแจกไพ่ 6 ใบให้กับผู้เล่นอีกคน จากนั้นค่อยให้กับตัวเจ้ามือเอง จากนั้นจะจั่วที่ละ 2 ใบ 3 ครั้ง หรือ จั่วทีละ 3 ใบ 3 ครั้ง จากนั้นไพ่ใบที่ 13 จะถูกเปิดโดยหงายหน้าขึ้น ( ไพ่ 12ใบแรกอยู่ที่ผู้เล่น ) ไพ่ที่ยังไม่ได้แจกที่เหลือจะคว่ำหน้าลงอยู่กลางโต๊ะ
คู่ต่อสู้ของเจ้ามือจะเล่นก่อน โดยผู้เล่นอีกคนไม่จำเป็นต้องระบุสีเพื่อเปิดเกมต่อ ผู้เล่นสามารถตัดกับทรัมป์ได้ แต้มไพ่ของทรัมป์นั้นเหมือนกับลำดับไพ่ที่ไม่มีทรัมป์ ใครก็ตามที่มีไพ่ดีที่สุด ไม่ว่าจะมีทรัมป์หรือไม่ก็ตาม ผู้เล่นคนนั้นจะเป็นผู้ชนะ และเขาจะเป็นผู้ที่เริ่มยกครั้งต่อไป
ก่อนละเริ่มยก ผู้เล่นสามารถประกาศแบบรวมได้ เกม Marjolet แยกชุดค่าผสมได้ 7 ประเภท ได้แก่
- 4 เอช
- 4 คิง
- 4 ควีน
- 4 แจ๊ค
- Trump Marriage ( คิงและควีนของทรัมป์ )
- Common Marriage ( คิงและควีนที่ไม่ใช่ทรัมป์ )
- ทรัมป์แจ๊คและทรัมป์ควีน
- ทรัมป์แจ๊คและควีนที่ไม่ใช่ทรัมป์
หากผู้เล่นถือหนึ่งในชุดของค่าผสมเหล่านี้ เขาก็สามารถหงายหน้าไพ่ได้ และแต้มไพ่ของเขาจะถูกนับเมื่อสิ้นสุดเกม แต่เขาก็สามารถใช้ได้ทั้งในเกมลิฟต์เพื่อสร้างชุดค่าผสมใหม่ ซึ่งแน่นอนว่าผู้เล่นไม่สามารถทำชุดค่าผสมซ้ำด้วยไพ่ใบเดียวกันได้ ในช่วงลิฟต์หกครั้งล่าสุด ผู้เล่นต้องระบุสีโดยการเล่นไพ่ที่มีแต้มสูงกว่าโดยไม่จำเป็น แต่ถ้าจะไม่เก็บไพ่ใบนั้นไว้ เขาก็ยังสามารถเล่นไพ่ทรัมป์ได้ และจะประกาศแต้มที่การจั่วครั้งสุดท้าย
เมื่อประลองกันจนหมดหนำใจแล้ว ก่อนเกมจะจบผู้เล่นก็จะจับคู่ไพ่ในมือก่อนจะเผยแต้มลงบนโต๊ะ
วิธีการนับคะแนน
เมื่อจบเกมก็จะต้องนับคะแนน เกม Marjolet จะนับว่าไพ่ที่ไม่ตรงกันนั้นไม่ถือว่ามีแต้มใดๆ ต้องเป็นไพ่ที่เป็นชุดค่าผสมเท่านั้นจึงจะมีแต้ม เนื่องจากเอซและไพ่ 10 ใบ (เศษ) คือไพ่ที่มีแต้มสูงที่สุด ซึ่งขึ้นอยู่กับผู้เล่นว่าเขาจะนำมารวมกันอย่างไร
- 4 เอช = 100 แต้ม
- 4 คิง = 80 แต้ม
- 4 ควีน = 60 แต้ม
- 4 แจ๊ค = 40 แต้ม
- Trump Marriage ( คิงและควีนของทรัมป์ ) = 40 แต้ม
- Common Marriage ( คิงและควีนที่ไม่ใช่ทรัมป์ ) =20 แต้ม
- ทรัมป์แจ๊คและทรัมป์ควีน = 20 แต้ม
คะแนนพิเศษของ Majolet
- ถ้าเจ้ามือมีเอซ 7 ถือว่ามี 7 แต้ม เขาจะได้แต้มเพิ่มทันทีอีก 10 แต้ม เรียกว่า สิบ
- หากผู้เล่นถือไพ่ทรัมป์ 7 ใบ เขาสามารถแลกเป็นไพ่ไหนก็ได้ เขาจะได้เพิ่มอีก 10 แต้มทันที
- หากผู้เล่นมีไพ่ทรัมป์แต่ไม่ต้องการแลกมัน เขาก็จะได้เพิ่มอีก 10 แต้มเสมอ ไม่ว่าเขาจะชนะหรือไม่ก็ตาม
- ผู้เล่นที่ชนะลิฟท์ครั้งสุดท้ายจะได้รับเพิ่ม 10 แต้ม
- ผู้เล่นที่ลิฟท์ทั้งหกครั้ง จะได้รับแต้มพิเศษ 50 แต้ม
- แต่ละเศษที่ได้รับระหว่างการลิฟท์จะได้รับคะแนนพิเศษเพิ่มอีก 10 แต้ม
จุดจบของเกม
เกมจะจบลงเมื่อเป็นไปตามข้อตกลงของผู้เล่น แล้วแต่ก็รณี เช่นแต้มรวมกันได้ 500 หรือ 1000 แต้ม